Day 2 Trip Vietnam – 44 DAY S1K769 M1K60 WEDNESDAY – 14 December 2022
เมื่อคืนเรานอนกันที่โรงแรมแมกโนเลีย เช้านี้ตื่นตาม Morning call เวลา 6 โมง ตามสูตร ตื่น 6 โมง ทานอาหารเช้า 7 โมง ล้อหมุนเวลา 8 โมง เพื่อจะไปเที่ยวต่อ และเดินทางไปบาน่าฮิลล์กัน
ช่วงเช้าไปล่องเรือกระด้งที่หมู่บ้านกั๊มทาน Cẩm Thanh และเที่ยวเมืองโบราณฮอยอัน
หลังอาหารเช้า หม่าม๊าจัดของดูแลกระเป๋าอยู่ในล้อบบี้โรงแรม ป่าป๊าก็พาม่อนและโมเดินข้ามถนนมาร้านชากาแฟ Bong เพื่อลองชิมชานม โดยให้ม่อนและโมเลือกเมนูเอง แล้วยังซื้อกาแฟให้หม่าม๊าด้วย (แต่ว่าพอซื้อมาได้ของกลับเป็น Cold Americano ซะงั้น)
ชานมรสชาดอร่อย แต่หวานมากๆๆ มีครีมเป็นชีสด้วย และมีไข่มุกหนึบๆ อร่อยจริงๆ ส่วนของหม่าม๊ากลับเป็นกาแฟเย็นซะงั้น
พอได้ของแล้วเราก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหมู่บ้านกั๊มทาน เพื่อนั่งเรือกระด้ง วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ชาวเวียดนามที่นี่
หมู่บ้านนี้เป็นป่าชายเลนอยู่ปากแม่น้ำ Thu Bồn River ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองดานัง และออกสู่ทะเล แต่หมู่บ้านนี้จะอยู่ในป่าชายเลน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือกระด้งชมแม่น้ำ
ที่นี่มีผู้ให้บริการเรือกระด้งหลายเจ้า และทัวร์ก็พาเรามาที่นี่ และล่องเรือไปทางน้ำตื้นๆ ไกด์บอกว่าตื่นแค้เขาเท่านั้น รอบๆ เป็นป่าชายเลน และเป็นต้นไม้เหมือนๆ กัน น่าจะเป็นต้นจาก
เรือนี้มีท้องเรือเป็นครึ่งทรงกลม คนพายเรือก็เก่ง มีวิธีพายทำให้เรือไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเส้นทางไปยังปากแม่น้ำ แต่ยังห่างจากทะเลอีกเยอะ น้ำไม่มีคลื่นและลม อากาศเย็นสบาย
คนเรือจะมีการโชว์หมุน คนพายเรือจะโยกไปมา และจิ้มไม่พายไปในน้ำ เพื่อให้เรือหมุนเป็นวงกลม ม่อนอาสานั่งเรือซึ่งหมุนอย่างรวดเร็ว จนดูแล้วเวียนหัวเลย
จุดปากแม่น้ำเขาจะให้เรือมารวมกัน และมีเวลาซึ่งก็คือเรือ และผูกเชือกกับเสาไม่ไผ่สองต้น มีเครื่องเสียง และร้องเพลงเต้นโชว์ ส่วนเรือกระด้งแต่ละลำก็จะพายมาจอดชนๆ กัน เอาเชือกผูกกันไว้ ร้องเพลงไทยเพื่อเอาใจคนไทยใหญ่เลย
หลังจากขึ้นจากเรือกระด้งแล้ว เราก็ไปเที่ยวหมู่บ้านโบราณฮอยอัน The Ancient Town of Hoi An ตามลิงค์เลย ทางเข้าซอยเป็นเรือแดง จริงๆ เมืองเก่านี้ใหญ่มาก ขยายไปใหญ่และไกลมากๆ เลย แต่เราเที่ยวเดินไปตามทางนี้ จนถึงสะพานญี่ปุ่น และเลี้ยวขวาออกมาริมแม่น้ำ และเดินย้อนกลับมายังสะพานญี่ปุ่นใหม่
สองข้างทางเป็นร้านค้าประมาณว่าศิลปะ ของโบราณ บ้างก็ดูทันสมัยมินิมอลลิสต์ก็มี ร้านขายของก็มีหลายร้านเยอะอยู่
เมื่อได้เวลาแล้ว เราก็ขึ้นรถตามเวลาเพื่อมาทานอาหารที่ร้าน Golden Light Restaurant ไม่ไกลจากที่นี่นัก อาหารรสชาดก็อร่อยดี ร้านนี้จะไม่เหมือนร้านอื่นสักนิด (เพราะมื้อต่อๆ ไปนี้ ถ้าไม่ใช่ในโรงแรมจะเหมือนๆ กันหมดเลย)
เสร็จแล้วเขาพาเรามาร้านเพื่อให้ร้านขายของ เป็นของหินห่อน เนื่องจากแถวนี้มีภูเขาหินอ่อนเป็นลูกๆ และน่าจะมีสัมปทานให้ขุดมาขายได้ ก็มีร้านหินอ่อนเยอะแยะไปหมด
ได้เวลาเดินทางไปยัง Ba Na Hills แล้ว รถทัวร์ถาเรามีที่สถานี Ba Na Hill Station สถานที่นี้เป็นไฮไลท์ ที่นี่บริหารโดย Mercure และเรียกว่า French Village นั่นเอง
มองไปรอบๆ วิวสวยมาก และใช้เวลายี่สิบกว่านาทีกว่าจะถึงด้านบน มีน้ำตก และแม่น้ำด้านล่างด้วย ความสูงมองลงมาข้างล่างน่าหวาดเสียว วิวสวยมาก และอากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ
จากสถานีไปยังตัวโรงแรม มีเสาถึง 24 เสา และผ่านภูเขา และแม่น้ำ ความสูงขึ้นไปถึงด้านบนคือประมาณ 1440 เมตร (บริเวณ Water Bloom)
ตรงนี้เป็นเหมือนตรงกลางของโรงแรม เป็นจุดศูนย์กลาง และรอบๆ จะมีอาคารที่พัก หรือโรงแรมนั่นเอง เรามาที่ตึกหนึ่งก่อน เพื่อรับกุญแจห้อง ที่นี่มี 8 ตึก และตึกละประมาณ 50 ห้อง แต่ก็ปิดไม่ได้เปิดบริการประมาณครึ่งหนึ่ง แขกที่มาเที่ยวถึงแม้จองมาแล้ว ก็ไม่สามารถรู้ห้องล่วงหน้าได้ เมื่อมาถึงแล้ว จึงได้รู้ว่าอยู่ห้องไหน ตึกไหน ไกด์เลยพาเราไปเที่ยวที่สะพานมือก่อน หรือเรียกว่า Golden Bridge โดยต้องนั่งกระเช้ามาประมาณ 4 เสา หรือ 5 นาที และเดินผ่านทางเชื่อมก็มาถึงอาคารบริเวณ Golden Bridge
อากาศเย็น และลมแรงมากๆ ตั้งแต่มาถึงที่นี่เราก็หายใจเป็นไอเย็นทุกคน และที่สะพานนี้ ลมแรงมากๆ โมชิหนาวจนทนไม่ไหว บอกว่าไม่ไหวแล้ว และวิ่งเข้าไปในฮอลล์ใหม่ ปล่อยให้ป่าป๊า หม่าม๊า และม่อน เดินตากลมเย็นถ่ายรูปกันเอง
เราเดินมาจนสุดสะพาน เป็นสวนสวย คนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้ดี แล้วสักพัก โมชิก็วิ่งมา คงเพราะว่าไปรอในฮอลล์นานแล้ว โมชิเลยเดินมาตามสะพานเรื่อยๆ จนถึงตรงนี้ และมาถ่ายรูปกันอีก