Salmon TH-Day5 S2K286 Moshi TH-Day44 M1K668 WEDNESDAY – 18 DECEMBER 2024 – chongqing Day 2
重庆第二天 วันนี้เป็น one day trip ไปยังอู่หลง 武隆 เขตอู่หลง เป็นเขตหนึ่งของนครฉงชิ่ง และมีที่เที่ยวคือหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ เราจะไปที่นี่กัน
ทุกคนตื่นกันเวลา 6 โมง ไกด์ทัวร์โปรแกรมนี้ ได้ทักป่าป๊าตั้งแต่เมื่อคืน และนัดพบตามเวลาล่วงหน้าแล้ว ไกด์ชื่อเสี่ยวหวัง เจอกันเวลา 7.20 น. ที่ป้ายหน้าโรงแรม Hyatt ซึ่งคนขายทัวร์พาเราไปดูตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
พอมาถึงที่นัดพบ ป่าป๊าถ่ายรูปป้าย และรูปตัวเอง ส่งไปให้เสี่ยวหวัง และมองดูรอบๆ ก็มีคนจีนมารอแถวนี้หลายคน เป็นทัวร์กรุ๊ปต่างๆ มารอเวลาไล่ๆกัน ส่วนหม่าม๊าเดินมาที่รถเข็นซึ่งขายอาหารเช้า เลยซื้อสต๊อกเอาไว้หม่ำระหว่างทาง
ของกินมีข้าวเหนียวเป็นก้อนๆ 3 ก้อน 5 หยวน ซาลาเปาลูกละ 3 หยวน แป้งเขียวๆ จำราคาไม่ได้ น่าจะเท่าๆ กับซาลาเปา คนมาซื้อกันเต็มเลย ของร้อนๆ น่ากิน
เมื่อทุกคนขึ้นรถแล้ว รถก็ออกเดินทาง ไกด์พูดไปเรื่อยๆ แนะนำตัว เช็คชื่อ เขาเช็คชื่อคนเป็นกลุ่มๆ เป็นเบอร์โทร.เลขท้าย และบอกว่าเป็นบ้านที่เท่าไรๆ ของเราเป็น Wechat บอกว่าชื่อ 蔡万里 เป็น 第七家人
รถพาเราไปจุดแวะพักที่นึง เหมือนเป็นอนุสรณ์ของคนใช้แรงงาน และมีห้องน้ำสาธารณะให้เข้า เดินทางมาจุดนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วเดินทางต่ออีกชั่วโมงนึง ไปร้านอาหารกินข้าวกัน
มันคือเมืองโบราณ แต่ทัวร์ไม่ได้แวะเยี่ยมชม แค่เข้าห้องน้ำ และถ่ายรูปบนเขาเล็กๆ นี้ ที่นี่คือ 武隆羊角古镇
ไกด์ขอคิดเงินเพิ่ม เข้าไปชุมชนเหมียวจู๋ 苗族 หรือชาวแม้วนั่นเอง 40 หยวน เป็นค่ารถกอล์ฟพาเข้าไปด้านใน และค่าเดินบนสะพานกระจกที่หลุมฟ้าอีก 40 หยวน ป่าป๊าหม่าม๊าไม่เอาสะพานกระจกก็ไม่ต้องจ่าย แต่ชุมชนเหมียวจู๋ถ้าไม่ไปก็จะต้องรอในรถนาน ก็เลยตัดสินใจจ่ายเงิน ก็เลยไปเยี่ยมชม สรุปแล้วไม่มีอะไร แค่เป็นชุมชนเก่าแก่ และที่สุดก็ขายของเป็นเครื่องเงินราคาแพงมากๆๆเลย
苗族 ก็คือชาวม้ง หรือแม้วนั่นเอง เป็นหนึ่งใน 56 ชนกลุ่มชาติพันธ์ของจีน
ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจ เสียเวลาและต้องเดินเยอะ ใช้เวลามาก จนถึงบ่ายสองก็ไปต่อ นั่งรถทัวร์มายังด้านหน้าของอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์
แล้วก็มาถึงไฮไลท์ตอนนี้ก็ประมาณร่วม 14:00 น เรา เดินทางไปที่หน้าอุทยานเลย และพวกเราก็เข้าไปด้านในได้ คนไม่เยอะมาก ซื้อตั๋วให้เราเรียบร้อยแล้วรวมในค่าทัวร์ของพวกเรา เราเข้าไปในช่องทางด้านขวามือโชว์พาสปอร์ตก็เข้าได้เลย เขาแทบไม่ดูพาสปอร์ตด้วย ส่วนคนอื่นๆ ที่จ่ายเงินค่าเดินสะพานกระจก อยากจะเดินบนกระจกก็ไปทางช่องซ้าย ซึ่งกระจกก็เล็กนิดเดียวเองดีแล้วที่เราไม่เอา เสียเงินไปเปล่าๆ
ไกด์ให้เราเดินไปตามทาง ซึ่งเป็นเส้นทางเดียว ให้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงครึ่งนี่แหละมาเจอกันตอนบ่าย 4 โมงครึ่ง
พวกเราเดินไปตามเส้นทางจนถึงทางออกยังไงก็เดินครบ ระหว่างทางส่งรูปไปให้ไกลดูว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วไกด์ก็ประเมินว่าระยะทางอีกเท่าไหร่ใช้เวลาเท่าไหร่เพื่อให้เรากะเวลาได้ เดินกันเมื่อยสุดๆ หลายกิโลเลยแหละ (วันนี้เราเดินกันร่วม 15000 ก้าวได้)
เดินเข้ามาก็เป็นหุบลงไปข้างล่าง ลึกมากเลย มองไปใต้สะพานสวรรค์ จะเห็นโรงเตี๊ยม ที่เราต้องลงไป แต่จะลงอีกด้านหนึ่ง เป็นลิฟท์ แล้วเดินอ้อมเป็นวง มาจนถึงโรงเตี๊ยมนี้
เดินไปอีกพักใหญ่ๆ ก็จะถึงลิฟท์ ซึ่งจะลงไปข้างล่างลึกหลายสิบเมตรเลย มีลิฟท์ 5 ตัว เปิดใช้สามตัวมั้ง ตัวลิฟท์หมุนได้ด้วย เราเข้าทางนี้ พอลิฟท์เลื่อนลง ตัวลิฟท์ก็หมุนเพื่อให้เราไปออกอีกด้านหนึ่ง ลงมาข้างล่างแล้ว เราจะต้องเดินต่อ ลงบันไดมาอีกไกลมากๆ ซึ่งจะมีคนบริการเสลี่ยง ถ้าเดินไม่ไหว เราเดินกันลงมาเองเหมือนคนส่่วนใหญ่ ลงมาเรื่อยๆ ก็ไม่เมื่อยมากนัก สบายๆ
จะเป็นสะพานหินธรรมชาติ แต่ละจุดก็จะมองเป็นรูปต่างๆ กันไป ตรงนี้น่าจะเป็นเหมือนนิ้วโป้ง thumb up
เราเดินชม และถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ พอมาถึงโรงเตี๊ยมก็ส่งรูปให้ไกด์ ไกด์บอกว่า แค่ครึ่งทางเอง เราก็เดินต่อ แวะเข้าห้องน้ำบ้าง เดินบ้าง ถ่ายรูปบ้าง เมื่อยสุดๆ ทางไกลมากๆ เกิน 3 – 4 กม. เลยแหละ
ในที่สุดเราก็เดินกันจนครบ มาถึงทางออก เราต้องขึ้นรถบัสจะต้องซื้อตั๋ว คนละ 15 หยวน ดีกว่าเดินขึ้นมา ซึ่งก็มีคนเดิน เห็นแล้วไม่ไหวแน่ๆ แต่เรานั่งรถไฟฟ้าสบายมาก พอมาถึงก็นั่งรถบัสพาเรากลับ มายังอาคารปิรามิด ไกด์ไม่ให้ซื้อของ แค่มามาเข้าห้องน้ำ แล้วเดินทางต่อ อีกสักพัก ประมาณ 1.30 ชม. ก็ถึงจุดแวะพัก มีอาหารขาย เราซื้อข้าวโพดกับแป้งแผ่นกินกัน แล้วขึ้นรถ เขามาส่งเราที่ jiao chang kou เราเดินลงรถมายืดแข้งขืนขา วิวดี อากาศเย็น เราเดินต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไปที่พัก เดินผ่านอีกด้านของถนน 八一路 เลยเดินเล่นต่อ เดินกินไปหลายๆ ร้าน และแวะร้านค้า ซื้อนมกล่อง กับน้ำดื่ม 5่ ลิตรเข้าที่พักกัน