เช้านี้เราตื่นขึ้นมาก็ไปทานอาหารเช้ากันประมาณเกือบๆ 9:00 น อาหารอร่อยกว่าเมื่อวานนิดหน่อยกินกันไปเรื่อยๆไม่ดีกว่าจะเสร็จก็หมดเวลาเลย 10 โมงครึ่ง เสร็จแล้วเรากลับห้องอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของทุกอย่างเพื่อเช็คเอา วันนี้เราจะไปพร้อมการชั่งหัวมัน ของในหลวงร 9 เยี่ยมชมโครงการแล้วเราจะไปกินอาหารง่ายๆอาหารจานเดียวแถวห้วยยาง แล้วเดินทางกลับบ้าน
เช้านี้เราตื่นกัน 8 โมง เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วไปทานอาหารเช้าบุฟเฟ่ 2 หนุ่มออกมาช้ากว่าปะป๊ามาม๊าเล็กน้อย พวกเรานั่งทานอาหารอย่างสบายๆ ร้านอาหารดีพอสมควรแต่ไม่ค่อยมีผักซึ่งอาหารที่เป็นข้าวต้มน่าจะมีผัดผักเป็นกับข้าวแต่มีแค่กุนเชียงกับไข่เค็มเท่านั้น ไม่กินเสร็จแล้วได้เวลาแล้วปะป๊ามาม๊าไปฟังบรีฟเขาขายของสมาชิกโรงงานที่นี่ ปะป๊านัดกับม่อนไว้ว่าให้โทรมาตอน 11:45 น บอกว่าปวดท้องเพื่อจะได้หาข้ออ้าง ก่อนเวลาเล็กน้อยประปา WhatsApp ไปเตือนม่อนก็โทรมาตามเวลาจริงๆ ก็เลยทำให้หยุดการฟิตติ้งและได้เวลาพอดีเราก็เลยออกมาจากการบรีฟขายของได้สบายๆระหว่างนั้น 2 หนุ่มไปว่ายน้ำเล่นกัน เสร็จเรียบร้อยแล้วเกือบๆบ่ายโมงก็เลิกเล่นน้ำมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าปะป๊ามานอนพักผ่อนสักพักหนึ่งก็ชวนทุกๆคนเอาไปขับรถเที่ยวไปเขากะโหลกเดินเล่นอยู่สักพักหนึ่งบรรยากาศดีวิวสวย ก็เดินทางต่อไปหาดสามร้อยยอดขับรถไปเรื่อยๆช้าๆไม่น่าเชื่อว่าสงบเงียบดีมากแล้วก็มีร้านค้ากับที่พักเล็กๆเยอะแยะเต็มไปหมดถนนข้าวสวยสงบเงียบทำไมจะสูญหายแล้วก็เดินทางกลับเอามาหาอะไรกินร้านอาหารเดิมที่เลี้ยงไว้อุดมโภชนาเงียบๆไม่น่ากินก็เลยไปทางปากน้ำปราณไปที่ร้าน EXO ซีฟู้ดกินอาหารอร่อยมากโมชิกับแซลมอนกินปลากระพงทอดน้ำปลาทั้ง 2 คนกินกันเยอะเลยอาหารเมนูอร่อยมากๆราคาแค่ 1,200 กว่าบาทเองเสร็จแล้วเราเดินทางกลับโรงแรมม่อนกับโอมานอนเล่นอาบน้ำพักผ่อนเอาผ้ามาม๊าเก็บของเสร็จเข้าไปเดินเล่นที่ชายหาดเกือบ 2 กิโลเมตรค่อยๆกลับมาอาบน้ำพักผ่อนนอนหลับ
วันนี้ปะป๊าตื่นคนแรกเหมือนเดิม 6 โมงครึ่ง ทำขนมปังหม่ำ กับกาแฟเรียบร้อย แล้วก็อาบน้ำ ไปปลูกหม่าม๊ากับเด็กๆ เสร็จแล้วมาทำออมเล็ต 3 ชุด หม่าม๊าลุกออกมาปิ้งขนมปังใส่ชีสทำไว้เต็มจาน ป่าป๊าชงกาแฟสต๊อกใส่กระติก mfc ไว้ กระเป๋าเดินทางของทุกคน หม่าม๊าจัดตั้งแต่เมื่อวาน และ 2 หนุ่มก็จัดของตัวเองเสร็จตั้งแต่เมื่อวานเรียบร้อยแล้ว ทานอาหารเช้ากันเสร็จเราก็ออกเดินทาง เลทนิดหน่อยตามเคยแต่ก็ไม่เป็นไร เราเดินทางมาระหว่างทางแวะจุดแวะคือร้านพ่อเข่งซื้อไข่เค็ม และขนมหม้อแกง 2 ถาด เสร็จแล้วมุ่งหน้ามาร้านน้องเมย์ร้านอาหารที่เคยมากินข้าวก่อนที่มาเที่ยวหัวหิน ม่อนชอบร้านนี้ ส่วนโมชิได้แต่ข้าวสวยกับไข่เจียว และก็ไม่ชอบด้วย เพราะว่าไข่เจียวมันไปหน่อย มัน้ำมันเยอะ แต่ก็พอกินได้ ส่วนอาหารอย่างอื่นอร่อยตามเคยกินกันจนอิ่มท้อง เมนูอร่อย ม่อนเคยมาร้านนี้แล้วหนนึง เราเดินทางต่อ มาจนถึงปราณบุรี เติมน้ำมันที่บางจาก และแวะมาที่เซเว่น หม่าม้าซื้อโค้กกับนมโยเกิร์ตเป็นขวดไว้ เรามาถึงโรงแรม และเช็คอิน โรงแรมจะเป็นสถานที่ใหญ่มาก เราจอดรถที่ลานจอดรถ และเขาพาเรานั่งรถไฟฟ้าไปส่งที่ล๊อปบี้ รวมทั้งเอาสัมภาระไปรอไว้ด้วย ที่โรงแรมเราได้ที่พักเป็นห้องสตูดิโอริมหาด โรงแรมนี้ใหญ่มากจากจุดยอดรถด้านหลังมาด้านหน้าต้องนั่งรถกอล์ฟมา ห้องพักใหญ่ กว้างขวาง เป็นสองห้องติดกัน ที่ชั้น 1 และด้านหน้าเป็นระเบียง เดินลงไปด้านล่างเป็นสนามหญ้าติดขอบถนนด้านทะเลเลย เดินไปนิดเดียวก็ถึงสระว่ายน้ำ โมชิยังมีชานมเย็นจากอินทนิลที่ซื้อมาก่อนเข้าโรงแรม ริมหาดหน้าโรงแรม ชายหาดทำเป็นที่นั่งเล่นเดินเล่น เมื่อเข้าใหม่ที่ห้องแล้วก็พักผ่อนการนอนหลับประมาณชั่วโมง แล้วพวกเราเดินออกไปทางด้านหน้าของห้องผ่านระเบียงลงไปที่สวน แวะที่ร้าน pavilion ซึ่งเป็นร้านอาหารที่จะมากินตอนเย็น เราเดินออกไปด้านนอกเป็นสตรีทฟู้ดเลี้ยวซ้ายออกไปก็เจอเต็มไปหมด เดินเล่นกันรอบดึกซื้อของกินเล็กหน่อยมีข้าวโพดแล้วก็ถั่วต้ม เสร็จแล้วเดินกลับมากินอาหารเย็นกัน เราจองโรงแรมนี้ได้ Voucher มา 2500 บาท จึงเอามาใช้ที่ร้านอาหารในโรงแรมชื่อว่า Pavilion อาหารอร่อยทุกเมนู ทั้งหมดที่หม่ำไปแค่ 1800 กว่าบาทเอง (ซึ่งรวมเซอร์วิสชาร๋์จแล้ว – ตอนเช็คเอาท์ เขาคิดเงินให้ยังตัดเซอร์วิสชาร์จออกอีก…
Day 1 วันที่ 16 มิ.ย. 2567 เดินทางเข้าที่พัก Wyndham Pranburi Day 2 วันที่ 17 มิ.ย. 2567 ฟังบริฟ และพักผ่อนที่โรงแรม Day 3 วันที่ 18 มิ.ย. 2567 เดินทางกลับ แวะโครงการชั่งหัวมัน
Day 5
Day 4 สะพานกระจก Zhang Jia Jie Glass Bridge 张家界大峡谷玻璃桥 และศูนย์สมุนไพร กับ ร้านชา พิพิธภัณฑ์ ที่พักเมื่อคืนคือโรงแรม Emperor Hotel ห่างจากเมือง官黎坪Yongding District, Zhangjiajie, มณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นจุดเคเบิ้ลคาร์ กับ ใกล้ไปทาง National Forest Pk of Tianmen Mountain天门山国家森林公园 หรือเขาเทียนเหมินซัน (ลงมาทางใต้ 8 กม. ด้วยเคเบิ้ลคาร์) ไปทางเหนืออีกเล็กน้อย ประมาณ 30 กม. เช้านี้เราตื่นขึ้นมาตามเวลาเดิม และไม่ต้องจัดกระเป๋าเพราะเราจะนอนที่นี่อีกคืนหนึ่ง เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว จะเดินทางไปชมสะพานกระจก หรือ Zhangjiajie Glass Bridge张家界大峡谷玻璃桥 อยู่ห่างออกไป 28 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อคืนมีฝนตกเป็นก้อนน้ำแข็งเล็กๆ ตลอดทั้งคืน เราต้องขับรถผ่านหุบเขา ตามเส้นทางนี้ ซึ่งมีอุบัติเหตุ ถนนลื่น รถชนกัน ทำให้คนขับรถต้องไปอีกทางหนึ่ง แต่ก็ยังเจอรถติดอยู่ดี เนื่องจากถนนแถวๆ นี้จะเป็นหุบเขา ถนนลื่นมาก มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ เห็นเขาเอาอะไรเป็นผงขาวๆ โดยพื้นถนน (น่าจะเป็นเกลือ ถาม Bard แล้วได้คำตอบดังนี้ Salt: The most common de-icing material, salt lowers the freezing point…
Day 3 เที่ยวเมืองน้ำตกฝูหรองเจิ้น แล้วเดินทางเข้าจางเจียเจี้ย ระเบียงกระจก และขึ้นเขาเทียนเหมินเซียนซัน อากาศหนาวกันสุดๆ ตั้งแต่เมื่อวานที่โมชิหนาวมือหนาวขาจนทนไม่ไหว ต้องพึ่งแผ่นร้อน และซื้อถุงมือใหม่ ดังนั้นเช้าวันนี้ ต้องใส่เสื้อผ้าแบบจัดเต็มกัน ชุดโมชิโอเคแล้ว มีถุงมือใหม่ก็ใช้ได้ และปิดแผ่นร้อนในรองเท้า กับที่อก ม่อนก็เหมือนกัน ส่วนหม่าม๊าเอาเสื้อแจ๊กเก็ตป่าป๊าที่เป็นวูลไปใส่ทับอีกชั้นหนึ่ง มีแผ่นร้อนปิดตามตัวก็ใช้ได้ และป่าป๊ามีเสื้อกันหนาวเป็นนวมสีเหลือง ใส่กางเองฮีทเทค กางเกงวอร์ม แล้วค่อยใส่ยีนส์ทับก็ใข้ได้แล้ว เราหม่ำอาหารเช้าที่โรงแรม และเดินทางมาอีกประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงเมืองฝูหรงเจิ้น 芙蓉镇 Fúróng zhèn อาหารเช้า โมชิหม่ำได้ดี จากลานจอดรถ เดินอีกนิดไปยังริมแม่น้ำ รถบัสจอดที่ลานจอด เราเดินมาตามทาง ผ่านหมู่บ้าน และอาคารที่เป็นที่ท่องเที่ยว ซึ่งไม่ค่อยมีคนนัก เพราะอากาศหนาวไม่มีคนจีนมาเที่ยวเท่าไร ไกด์ให้เรารับตั๋ว และเดินไปยังท่าน้ำ เพื่อนั่งเรือไฟฟ้าข้ามฝั่งไปยังเมืองฝูหรงเจิ้น กำลังจะขึ้นเรือ แต่งตัวแบบจัดเต็มแล้ว เมืองโบราณนี้ตั้งบนภูเขา และมีน้ำตกอยู่กลางเมืองเลย เราข้ามฝั่งไปยังเมืองฝูหรงแล้วก็เดินตมมขอบเขาไปลอดน้ำตก วิวสวยมาก อากาศเย็นจัด ไม่มีหิมะแต่ประมาณ 1 – 2 องศา ลมแรงด้วย Paranomic View of Fu Rong Zhen เมืองสวยมาก บนนี้วิวสวยมาก เราต้องเดินจากท่าเรือไปยังอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำ ตลอดทางผ่านขอบภูเขา เดินง่ายๆ มีจุดถ่ายรูปเยอะแยะ อากาศดีมาก หนาวเย็น และวิวสวยมาก เมืองตั้งบนภูเขาเหนือน้ำตกเลย จุ๊ฟๆ โมชิเริ่มชอบถ่ายรูปแล้ว สองหนุ่ม เรานั่งเรือกลับจากอีกด้านของแม่น้ำ แล้วเดินจากอาคารนักท่องเที่ยว มายังที่จอดรถ ปากทางมีคนขาวของ เลยซื้อส้มอร่อยมาครึ่งโล 5…
Day 2 เฟิ่งหวง – แวะฉางเต๋อก่อน วันนี้เราหม่ำอาหารเช้าที่โรงแรม เป็นข้าวต้ม และกับข้าว แล้วเดินทางมาเฟิ่งหวง ซึ่งจะใช้เวลานานมาก ก็เลยแวะฉางเต๋อก่อน มาวัดหนึ่งที่นี่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางมาวัด 2 ชั่วโมง (และเดินทางต่อไปเฟิ่งหวงอีก 4 ชั่วโมง) อาหารเช้าที่โรงแรม มีก๋วยเตี๋ยวผัด โมชิชอบ หม่าม๊าหม่ำข้าวต้ม มีไข่ดาวด้วย อร่อยดี ข้าวต้มร้อนๆ ก๋วยเตี๋ยวผัด ข้าวผัด เกี๊ยวต้ม ไข่ดาว กับข้าวข้าวต้มเป็นของดองอร่อยมาก หม่ำกันอิ่มแล้ว ก็เดินทางอีก 2 ชั่วโมงมายังฉางเต๋อ แวะที่วัดเซียนหลง 乾明寺 เนื่องจากเดินทางไกลมาก จึงแวะที่นี่ก่อน และหม่ำอาหารเที่ยงที่ฉางเต๋อด้วย วัดโบราณเฉียนหมิง อากาศเย็น แต่ไม่มีหิมะ มื้อนี้เป็นมื้อแรกที่ไม่ใช่โรงแรม จะเป็นอาหารจีนล้วนๆ มีข้าวสวย และกับข้าว ซึ่งจะเป็นหมู ผัดผัก มันๆ และน้ำแกงต่างๆ (ทุกมื้อเหมือนกันหมด) โชคดีจะมีไข่เจียวให้โมชิหม่ำกับข้าวสวยได้ แต่ก็มีเมนูอื่นๆ ที่โมชิยังหม่ำได้อีก ก็ยังโอเค หม่ำเสร็จแล้วเดินทางต่ออีก 4 ชั่วโมง เพื่อไปยังเมือง เฟิ่งหวง 凤凰县 fèng huáng xiàn อำเภอเฟิ่งหวง เป็นอำเภอภายใต้การปกครองของจังหวัดปกครองตนเองเซียงซี ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เมื่องนี้เราจะล่องเรือเที่ยวแม่น้ำ และชมเมืองโบราณ เนื่องจากระยะทางไกลมาก ระหว่างทางจึงแวะ Service Area บนทางด่วน ให้เข้าห้องน้ำ หม่าม๊าเห็นมีของขาย รีบซื้อของตุนไว้ให้โมชิกิน…
Day 1 วันเดินทางจากดอนเมืองสู่ฉางซา ตั้งแต่เมื่อวานหม่าม๊าเตรียมตัวเรียบร้อยล่วงหน้า ทุกคนจัดกระเป๋าส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย เรามีกระเป๋าล้อเลื่อนใบใหญ่ 1 ใบที่มีถุงคลุมสีฟ้าๆ กระเป๋าล้อเลื่อนใบเล็ก 2 ใบ ซึ่งเป็นของม่อนและโม และทุกคนมีกระเป๋าส่วนตัวเพื่อใส่ของกระจุกกระจิก เรากินอาหารกันที่บ้าน 1 มื้อป่าป๊าตื่นมาทอดไข่เจียวไว้ตั้งแต่เช้า หม่าม๊าเตรียมอ่หารต่อให้ทุกคนหม่ำกันอิ่มก่อน เมื่อทุกคนพร้อมแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เราออกเดินทางัน โดยขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของ จอดรถดอทคอม ที่เดิมใกล้สนามบินดอนเมืองโดยจองไว้ล่วงหน้า และจ่ายเงินไว้ล่วงหน้า ที่ลานจอดรถมีรถมารับเรา และพาเดินทางมาแป๊บเดียวก็มาถึงที่สนามบินดือเมือง ประตู 1 อาคาร 1 ชั้น 3 ผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ มาเจอกับไกด์ชื่อไอวี่ พอแนะนำตัวกันเรียบร้อย หม่าม๊าจ่ายเงินค่าไกด์คนละ 1,500 บาท ไกด์ไอวี่พาเราไปเช็คอิน เช็คอินทีละคน และโหลดกระเป๋าล้อลากทั้งหมดขึ้นเครื่อง เสร็จแล้วจึงเดินไปที่ชั้นบน มาหาอะไรกินกันที่ food court ชื่อว่าเมจิการ์เด้น ที่ฟู้ดคอร์ท เมจิกการ์เด้นท์ดอนเมือง มาหม่ำไอติมแดรี่ควีน ม่อนก็หม่ำ เห็นตาเจ็บอยู่เลยรูปนี้ หม่ำกันเสร็จ ป่าป๊าพาไปซื้อไอติมบลิซซาร์ด ซึ่งไม่ค่อยได้กินในปีนี้ เนื่องจากเราหม่ำอาหารสุขภาพกัน ตอนนี้ก็ขี้โกงนิดหน่อย หลังจากกินกันอิ่มแล้วก็เดินเข้ามายังเกท 4 มานั่งรอขึ้นเครื่อง เครื่องออกเวลา 6:10 น มาถึงแล้ว เครื่องบินใช้เวลาเดินทาง 3.30 ชม. มาถึงฉางซา อากาศหนาวทันที ต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่กัน อุณหภูมิ 1 องศาเลย เริ่มรู้สึกถึงความหนาวแล้ว ที่สนามบินฉางซา เนื่องจากเราเป็นกรุ๊ปทัวร์ไม่ต้องเอกสาร แต่ก็เข้าคิวผ่านตม.ตามลำดับเรียบร้อย คนไม่เยอะแล้วก็รอไม่นาน แอร์โฮสเตสประกาศบนเครื่องว่าอุณหภูมิภายนอก 2 องศาหนาวสุดๆ แต่จริงๆ…
บรรยากาศดี ม่อนเข้านอนก่อน ป่าป๊าหม่าม๊าและโมชินั่งเล่นกันจนดึกกว่าจะเข้านอน สักพักโมชิก็หลับ และป่าป๊าหม่าม๊าก็เข้าเต้นท์นอนเช่นกัน ตกกลางคืนฝนตกลงมา แรงพอควร แต่ไม่นานมาก เตนท์ป่าป๊าหม่าม๊าน้ำเข้าจากคาโนปี้ ก็เลยต้องออกมาปิด แล้วนอนต่อได้ ส่วนของสองหนุ่มไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีฟลายชีทคลุมอีกที แต่หม่าม๊าเดินออกไปเอาปลั๊กไฟออก แล้วมานอนต่อ พอใกล้ๆ สว่าง ลมพัดแรงมาก จนม่อนตื่น ป่าป๊าเลยเดินออกมาดู ม่อนจะเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมผ่าน เพราะกลัวเต้นท์ล้ม แต่ป่าป๊าบอกให้ปิด และป่าป๊าก็ปิดประตูทั้งหมด แล้วให้ม่อนเข้านอนได้ เช้านี้ป่าป๊าตื่นแต่เช้า มาชมวิว และสายสักหน่อยก็เรียกม่อนออกมา พร้อมกับป่าปาไปเอาเตาแก๊ส กับอาหารมา หม่าม๊าออกมาร่วมกันทำอาหาร ต้มน้ำทำโกโก้ร้อนให้ม่อนก่อน ม่อนชงและหม่ำกับขนมปัง ป่าป๊าเอาขนมปังปิ้งมาอาโวคาโดหม่ำกันก่อน หม่าม๊าเลยให้ทำต่อเลย ทอดไข่ และบะหมี่กับไก่เทอริยากิ อร่อยมาก ม่อนหม่ำไปสองชาม โมชิ 1 ชาม ขนมปังอีก กับไข่ดาว และกาแฟ ป่าป๊าหม่าม๊าก็หม่ำด้วย กินกันอร่อยเลย กาแฟนยามเช้า กาแฟป่าป๊าหม่าม๊ายามเช้า ทำไปหม่ำกันไป กินกันได้เยอะจริงๆ โกโก้ร้อน ต่อด้วยไข่ดาว แล้วค่อยหม่ำบะหมี่ ป่าป๊าทำไปเรื่อยๆ ทุกคนหม่ำได้หมด อากาศไม่ร้อนเลย เย็นๆ มีเมฆมาก เราหม่ำกันเสร็จก็ทยอยเก็บของวางเป็นระเบียบ แล้วค่อยล้มเต้นท์ทั้งสองอัน เก็บกราวด์ชีท และเก็บฟลายชีทหลังสุด แล้วเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำเท่านั้น และมีของสต๊อกหม่ำบนรถ ถึงบ่ายบ่ายสามกว่าๆ สนุกกันจริงๆ