เย้ๆๆๆ ถึงวันเดินทางไปดำน้ำที่แสมสารแล้ว พวกเราทั้งสี่คน รวมทั้งอี๊เหมียวอีกหนึ่งคน (จริงๆ จะมีอี๊นก แต่ว่าอี๊นกมาไม่ได้ เพราะปวดฟันมากๆ จนมาไม่ไหว) หม่าม๊านัดเรือไว้เวลา 11.00 น. ที่ทีมงานกัปตันหนุ่ย
วันนี้เราตื่นกันเช้าสักหน่อยแต่จริงๆก็ไม่เช้ามากปะป๊าตื่นขึ้นมา 6 โมงนิดๆพอ 6 โมงครึ่งก็ปลุกทุกคนกว่าจะลุกขึ้นมาได้ครบก็ประมาณ 7 โมงพอดี พวกเรากินอาหารเช้ากันมีหนมปังปิ้งปาท่องโก๋ซึ่งเขาซื้อเข็มไว้ให้เรากินกันตั้งเยอะแล้วก็เขามาถามว่ามีข้าวต้มจะกินเลยหรือยังเราบอกว่ายังไม่กินเพราะอยากจะทำอย่างอื่นก่อนหม่าม๊าก็ชวนไปเดินตลาดตลาดที่นี่วันนี้เหมือนกับไวน์แล้วแต่จริงๆก็ไม่ค่อยมีการค้าขายอะไรเพราะธุรกิจที่นี่น่าจะซบเซาลงอย่างมากแต่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าถ้าเป็นช่วงท่องเที่ยวอาจจะมีนักท่องเที่ยวเยอะขึ้นแต่ช่วงนี้แทบไม่มีคนเลยเราเดินไปเดินกลับแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรทำ
วันนี้ฝนไม่ตกเราฐานะอาหารเช้ากันจัดของเก็บของเรียบร้อยเพื่อเช็คเอาเวลาประมาณ 11 โมงก็มาขึ้นรถสองแถวเพื่อพาเราไปท่าเรือของบุญศิริ
เช้าแล้ว มื้อเช้าของวันนี เป็นบุฟเฟ่ต์พวกเราตื่นกันตอนประมาณ 8:00 น เดินลงมาทานกันบุฟเฟ่ต์ที่นี่ดีพอควรอาหารที่เป็นกับข้าวก็ทำได้อร่อย บรรยากาศเช้านี้ อาหารบุฟเฟ่ท์ เช้าๆ มานั่งหม่ำ บรรยากาศสบายๆ ยิ้มหวาน โมชิชอบแกล้งไม่ยิ้ม โมชิกินไข่ดาวไป 4-5 ฟองพร้อมกับไส้กรอกอีกเพียบเลย ม่อนก็กินไข่ดาวไปหลายฟอง และยังมีขนมปังมีแฮมใส่ซอสมะเขือเทศกับมัสตาร์ดอร่อยมาก ม่อนยังกินข้าวต้มไปอีก โมชิก็กินข้าวต้มด้วย หม่าม๊าหม่ำสลัดและของกินอีกหลายอย่างอร่อยไปเลย พวกเราหม่ำกันเสร็จแล้ว 2 หนุ่มก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมาเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ ส่วนป่าป๊าหม่าม๊าเดินไปคุยกับเคาน์เตอร์ที่รีสอร์ทเพื่อเช่ามอเตอร์ไซค์ เราตกลงเช่ามอเตอร์ไซค์มา 2 คันค่าเช่าวันละ 250 บาท ถ้าเช่าวันนี้กี่โมงพรุ่งนี้ก็คืนเวลาเดียวกัน แต่พรุ่งนี้เราก็ต้องเช็คเอาท์แล้ว รถจะมารับตอน 11:00 น เขาให้มาคืนกุญแจห้องตอน 10:45 น หม่ำเสร็จก็เปลี่ยนชุดมาเล่นน้ำในสระ แล้วไปเล่นชายหาดแป๊ปนึง พอเที่ยงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปเที่ยว หม่ำเสร็จก็ลงเล่นน้ำในสระ และยังไปเล่นน้ำที่ริมหาดกันแป๊ปนึง พอได้เวลา ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเดินทางเที่ยวในสเกาะ เราเตรียมตัวออกเดินทางไปเที่ยว โดยได้เช่ามอเตอร์ไซค์ไว้เรียบร้อย เตรียมกระเป๋าเตรียมน้ำดื่มไปพร้อม ก็ออกไปขี่่มอเตอร์ไซค์กัน มอเตอร์ไซค์เป็นมอเตอร์ไซค์แบบผู้หญิงเกียร์ออโต้เป็นปุ่มสตาร์ทไม่ต้องใช้เกียร์อะไรทั้งสิ้นบิดคันเร่งเข้าไปได้เลย มาม๊าทดลองเอาไปขี่แล้วลองอยู่สักพักก็รู้ว่าเอาไม่ไหวแน่นอน ขับเองคนเดียวยังไปไม่รอดจะซ้อนโมชิก็ไม่ไหวแน่ เลยเปลี่ยนใจเอามอเตอร์ไซค์ไปคืน ทางรีสอร์ทก็ใจดีรู้ว่าขับไม่ได้ก็เลยไม่คิดเงินคืนเงินกลับมามาก็เลยทิปไป 100 บาท ส่วนป่าป๊าขับสบายมากแต่ยังไงเราก็ไปคืนอยู่ดีก่อนที่จะเอาไปคืน ก็ขับพาโมไปยังชุมชนคลองหาด ขับไปนิดเดียวไปดูคลองซึ่งออกสู่ทะเล ทะเลคลื่นลมแรงมากแต่ตรงคลองนิ่งสงบ มีโฮมสเตย์และมีเรือบริการด้วย แต่ออกเรือไม่ได้เนื่องจากเป็นเรือสปีดโบ๊ท สู้คลื่นลมแรงแบบนี้ไม่ได้ โมชิบอกว่าบรรยากาศสวยดี แล้วป่าป๊าขับมอเตอร์ไซค์กลับมาส่งโมชิ เสร็จแล้วรับแซลมอนไปบ้าง เพื่อให้แซลมอนเห็นหมู่บ้านเช่นเดียวกัน ม่อนก็ชอบเพราะว่าบรรยากาศดี หม่าม๊าตัดสินใจเช่ารถที่มาส่งเราเมื่อวานนี้ ซึ่งเขาให้เบอร์โทร.เอาไว้ บอกว่าถ้าจะให้นำเที่ยวก็โทรมาได้ หม่าม้าตกลงราคาได้ 1,200 บาทให้เขามารับเขาจะมาใน 10 นาที คนที่มาไม่ใช่ลุงคนขับแต่เป็นลูกชายเป็นเด็กหนุ่มชื่อฟร้อง พูดจาสุภาพดีมากพาเราเที่ยว ที่แรกเราไปดูต้นมะค่ายักษ์ขับรถไปแป๊บเดียวเอง พวกเรานั่งด้านหน้ากันทุกคนในตอนแรก (แต่ต่อมาเราก็ย้ายไปนั่งด้านหลัง มีแต่หม่าม๊ากำกับการเดินทางอยู่ด้านหน้า) ด้านหน้าทางเข้าต้นมะค่ายักษ์ หม่าม๊าตัวนิดเดียวในป่าใหญ่…
เช้านี้พวกเราทุกคนตื่นกันตอนตี 4 เป็นวันแรกของการเดินทาง ป่าป๊าลุกขึ้นมาก่อนแล้วหม่าม๊าก็ตื่นตามมา ป่าป๊าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยต่อด้วยหม่าม๊า แล้วป่าป๊าเข้าไปปลุกโมชิ โมชิลุกขึ้นมาถามว่าต้องอาบน้ำไหม ป่าป๊าบอกว่าให้อาบน้ำอย่างรวดเร็วก็ได้ หม่าม๊าจัดของไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเรียยร้อยแล้ว และเอาเสื้อผ้าขึ้นรถไปเรียบร้อยแล้ว เช้านี้ก็เลยขนของอีกนิดเดียว ชงกาแฟ เตรียมที่ชาร์จมือถือ เตรียมของต่างๆ กว่าจะเดินทางได้จริงๆก็ตี 5 ครึ่งพอดี เราออกเดินทางแต่เช้า ถนนโล่งมากไม่มีใครขับรถเท่าไรนัก โมชิหลับแป๊บนึง ม่อนก็หลับบ้างตอนใกล้ๆจะ ถึงแกลง มื้อเช้าป่าป๊าตั้งใจจะกินก๋วยเตี๋ยวนายเคี้ยม แต่ว่าร้านยังไม่เปิด ป่าป๊าเลือกใหม่ ก็เจอร้านข้าวแกงลมโชย เลยมากินข้าวแกงกัน ข้าวแกงที่มีจานเล็กมากนิดเดียวเอง ราคาตั้ง 50 บาท ม่อนโมและป่าป๊ากินกันคนละ 2 จานก็ยังไม่อิ่ม ส่วนหม่าม๊ากินแค่จานเดียวเอง ข้าวแกงน้อยใจ น้อยจนไม่อิ่มเลย หิวแล้ว หม่ำสองจานก็ไม่อิ่ม พวกเราหม่ำอาหารเช้ากันเสร็จ เป็นร้านอาหารที่ราคาแพงมากจริงๆ ราคา 50 บาท ก็น่าจะเป็นราคาปกติ แต่ตักมาให้แค่นิดเดียวข้าวแกงน้อยมากๆ ก๋วยเตี๋ยวน้อยมากๆ จนกินไม่อิ่ม หลังจากอาหารเช้าแล้ว พวกเราก็เดินทางต่อ มุ่งหน้าไปจังหวัดตราด จุดหมายคือท่าเรือแหลมศอก ระหว่างทางแวะเข้าปั๊มน้ำมันครึ่งหนึ่ง และพอเข้าตัวเมืองตราดฝนก็ตกใหญ่เลย จนกระทั่งมาถึงใกล้ๆสำนักงานของเกาะกูดปริ๊นเซส หม่าม๊าก็แวะร้านขายของฝากข้างทางซื้อขนุนอบแห้ง กับปลาหมึกแห้ง มาสต๊อกไว้ แล้วเดินทางไปยังสำนักงานเกาะกูดปริ้นเซส พอเรากำลังจะถึง ทางเกาะกูดปริ๊นเซสก็โทรศัพท์มาตามเรา บอกว่าเนื่องจากว่าวันนี้ฝนตกคลื่นลมแรงเขาอยากจะเช็คชื่อคนให้ครบโดยเร็ว พอเราไปถึงก็เช็คชื่อเรียบร้อยเอากระเป๋าลงแล้วเอารถไปเก็บ เรานั่งรออยู่สักพักหนึ่งก็เตรียมตัวออกเดินทางได้ แต่ก่อนรถสองแถวมารับ หม่าม๊าก็สั่งกับข้าวกล่องมา 3 กล่องเผื่อเอาไว้ว่าจะหม่ำบนเรือ พอได้เวลาเขาก็เช็คชื่อเรียกแต่ละครอบครัว หรือแต่ละกลุ่มขึ้นรถสองแถวไปยังท่าเรือซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่นาที พอไปถึงเห็นคลื่นลมแรงมากเรือโยกเยกแรงมากๆเลย โมชิชาร์จแบตไปด้วย (เมื่อคืนเสียบสายไม่ดี ไม่ได้ชาร์จเลย) ม่อนนั่งรอสบายๆ เรือลำเท่านี้ คลื่นลมแรงแบบผิดปกติ โมชิเมาเรือเลย พวกเราลงเรือ และนั่งชั้นล่าง…
Day 1 เดินทางไปจันทบุรี เข้าที่พัก Sands Dune Resort Day 2 ย้ายที่พัก มาที่ New Travel Resort ใกล้ๆ กันนี่เอง หาดเดียวกัน Day 3 วันเดินทางกลับ แวะหม่ำ และแวะตลาดนินจาช้อปปิ้ง
Day 1 เดินทางไปวังน้ำเขียว เข้าพักที่จันทร์ธารา วัลเล่ย์ Day 2 ย้ายมาพักที่ Flower Mountain ซึ่งก็คือตลาดน้ำเขาใหญ่เดิมนั่นเอง Day 3 เดินทางกลับ แวะอยุทธยาซื้อโรตีสายไหม
DAY 1 เดินทางมุ่งสู่กาญจนบุรี DAY 2 เที่ยวกันสนุกสุดๆแล้ว วันนี้เดินทางกลับ แวะซื้อส้มโอเพียบ
เช้านี้เราชิลล์ๆ นอนตื่นสายๆ (แต่ก็ไม่สายมาก 7.15 สองหนุ่มก็โดนปลุกแล้ว) พอตื่นกันขึ้นมา ก็ไปหม่ำอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ท์ที่เรือนอาหาร คนทยอยมาหม่ำกัน ม่อนหม่ำไม่เยอะนัก เน้นกินข้าวผัด ส่วนโมชิหม่ำเยอะกว่า ป่าป๊าสต๊อกปาท่องโก๋ไปสองจาน จานละ 10 ตัว มาพร้อมนมข้นหวาน เอาไปเก็บไว้ในห้องเรียบร้อย พอกินเสร็จ สองหนุ่มก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไปเล่นน้ำต่อเลย สายๆ แดดเริ่มมาแล้ว ร้อนพอควร แต่ก็มีคนเล่นน้ำหลายคน เมื่อวานเล่นน้ำกันสนุกมาก ม่อนกับโมตั้งใจไว้เลยว่าวันนี้ต้องเล่นให้เต็มที่อีกวันหนึ่ง หม่าม๊าตามไปถ่ายรูปม่อน โมเล่นไม่ยั้ง หลบแดดดื่มน้ำตรงนี้ ถึงแดดจะร้อนก็จะเล่น สองหนุ่มเล่นกันเกือบเที่ยงวัน แดดร้อนเปรี้ยงๆ ถึงแม้ในร่มอากาศจะเย็นก็ตาม พอเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่ห้อง หม่ำปาท่องโก๋ที่ป่าป๊าไปเอามาเก็บไว้ตั้งแต่เช้า เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของและร่ำลาเลคเฮฟเว่นเดินทางกลับบ้าน มื้อเที่ยงป่าป๊าวางแผนจะไปหม่ำที่ คีรีธารา หรือไม่ก็ร้าน บ้านลุงชวนสวนป้าติ๋ว หม่าม๊าบอกว่าให้ไปดูที่คีรีธาราก่อน พอไปถึงคีรีธารา ก็เห็นว่าคนเยอะมาก มีรถทัวร์มาลงด้วย และไม่มีที่จอดรถ ร้านเป็นซอยติดกับสะพานรถไฟสายมรณะนั่นเอง ขับรถวนดูเสร็จก็มุ่งหน้ามาร้านบ้านลุงชวนสวนป้าติ๋วเลย พอไปถึงก็เห็นว่าคนพอควร เป็นสวนน่านั่ง ร้านนี้มีรีวิวเป็นภัษาอังกฤษทั้งนั้น เลยสั่งอาหารมาหลายอย่างหม่ำกันอร่อยไปเลย รสชาดดี อร่อยทุกอย่างเลย ปลาทอดเป็นเมนูโปรดของสองหนุ่ม อันนี้เป็นหมูสเต๊ก หั่นบางๆ ราดด้วยน้ำสลัด ข้าวผัดจานใหญ่ ราคา 200 บาท ชื่อสวยหรู แต่ก็คือไข่ลูกเขยที่อร่อยมาก โมชิตัวดำเพราะเล่นน้ำเลย หม่ำอิ่มก็ง่วงกันแล้ว พวกเราจึงเดินทางกลับ ขากลับผ่านนครชัยศรี ที่มีส้มโอขาย ป่าป๊าหม่าม๊าแวะหลายร้าน ซื้อมาเยอะแยะ ประมาณสิบกว่าลูก คละกันไป แต่ก็อร่อยทั้งนั่น แกะกินกันในรถเลย กลับถึงบ้านก็ทุ่มกว่าๆ ตอนเช้าเมืองรถติดมากๆ google maps แนะนำให้ผ่ากลางเมืองไปเลย ถึงบ้านเร็วด้วย
เมื่อวานให้ม่อนดูวีดีโอ Youtube เกี่ยวกับเครื่องเล่นสวนน้ำที่เลคเฮวเว่น ม่อนตื่นเต้นมาก โมชิก็เหมือนกัน เช้านี้เป่าป๊าตั้งใจล้อหมุน 6 โมงเช้า แต่จริงๆ เราออกเดินทางก็เกือบ 6.40 น. แล้ว ซึ่งเวลาก็ไม่มีปัญหาอะไร เดินทางสบายๆ เราแวะพักจุดแรกก็คือจังหวัดนครปฐม เป็นร้านเชลล์ไม่เคยชิม มีอาหารหร่อยหลายอย่าง ม่อนหม่ำข้าวหมูกรอบ หม่ำหมดอย่างรวดเร็ว ส่วนโมชิหม่ำข้าวหมูแดง หม่ำอย่างอร่อย และหม่ำเร็วด้วย พอหมดแล้วยังขอเบิ้ลอีกด้วย กินเก่งจริงๆเช้านี้ ข้า่วหมูกรอบของม่อน ข้าวหมูแดงของโมชิ หมำ่เบิ้ลสองจานด้วย หลังจากหมำ่กันอิ่มแล้ว หม่าม๊าซื้อขนมติดมือมานิดหน่อย แล้วเดินทางต่อกันทันที ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี จุดที่เราแวะเยี่ยมชมก็คือ ต้นจามจุรียักษ์ จากถนนแสงชูโตที่มุ่งหน้าไปยังตัวจังหวัดกาญจนบุรี เราแยกเลี้ยวซ้ายตรงท่ามะกา และมาถึงแยกวัดถ้ำเสือ เราก็เลี้ยวซ็ายมุ่งหน้าไปยังต้นจามจุรียักษ์ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่ทางหมู่บ้านทำเป็นตลาดต้อนรับคนเลย มีร้านค้าของขาย แต่วันนี้คนไม่เยอะนัก แต่ก็มีหลายคนแวะมาเยี่ยมชมความใหญ่ของต้นไม้นี้ ต้นไม้ใหญ่มาก สวยมากด้วย คนถ่ายคู่ต้นไม้ก็สวย กิ่งก้านของต้นไม้แต่ละกิ่ง ดูเหมือนต้นไม้อีกหนึ่งต้น ทอดออกไปจากลำต้นของจามจุรียักษ์นี้ เราดูเล็กไปเลย ที่นี่บรรยากาศร่มรื่นมาก ถึงแม้แดดร้อน แต่ใต้ต้นไม้ใหญ่นี้ ร่มรื่นมากๆ แดดส่งมารำไรก็คลายความร้อนไปจากระยะทางที่ผ่านกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่นี้ ม่อนผมยิ้ม โมไม่ค่อยชอบถ่ายรูป ม่อนนั่งพักสักหน่อย หม่าม๊าสวยตลอด เราเดินเล่นถ่ายรูปสักพักใหญ่ๆ ก็เดินทางต่อ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยังร้าน คีรีมันตรา ซึ่งที่นี่มีร้านกาแฟ และอาหารสไตล์ฟิวชั่น ป่าป๊าขับรถออกมาตามทางเดิม ผ่านแยกที่จะไปวัดถ้ำเสือ (ที่ม่อนไม่อยากจะแวะวัด) ขับรถเลียบแม่กลองไปและเข้าสู่ถนนแสงชูโตต่อ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายที่แยกแก่งเสี้ยน ทิศทางไทรโยค มุ่งหน้าไปยังร้าน ป่าป๊าขับรถอีก 50 นาทีก็ถึงร้านแล้ว ร้านนี้สวยมากๆ เป็นร้านอาหารไทย และมีส่วนที่เป็นร้านกาแฟ ที่มีอาหารสไตล์ฟิวชั่น ก็พวกสเต็ก…