DAY S1k160 M452 อยู่ไทย 01 Friday – 6 November 2020

DAY S1k160 M452 อยู่ไทย 01 Friday – 6 November 2020

วันนี้เป็นวันเดินทางแล้ว เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่ ของต่างๆ กระเป๋า ได้ถูกจัดแล้ว และมีของกินมาด้วย สองหนุ่มเดินทางพร้อมอานตี้เวลาประมาณ 10.30 น. เดินทางไปสนามบินกันเลย พอไปถึงที่นั่น ม่อนก็โทร.มารายงานตัว ม่อนต่อเนตที่นันได้ แต่โมชิต่อไม่ได้ เพราะมือถือโมชิมีปัญหาเรื่องการใช้ browser ซึ่งการต่อเนตในที่แบบนี้ต้องลงทะเบียนผ่าน  browser

ม่อนกับโมมาถึงก็ต้องรอก่อน มีคนมาดูแลให้รอกันก่อนจนกว่าจะถึงเวลา และเมื่อถึงเวลาก็ไปเช็คอิน และจะได้ boarding pass มา ม่อนโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง และมารอข้างนอก จนได้เวลาก็เข้าไปใน passenger hall อานตี้ก็กลับ และเขียนมาหาป่าป๊าบอกว่า ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

[11:53 AM, 11/6/2020] SG. HomeStayPro Pauline: The boys have checked in n going to departure hall to wait for their flight ..
[11:59 AM, 11/6/2020] Thawal Willy Cai: Thank you Auntie very much. We are so happy.
[12:11 PM, 11/6/2020] SG. HomeStayPro Pauline: Yes. I’m sure they’re happy to be home soon. Early greetings for coming festive season. Merry Christmas 🎄
[12:24 PM, 11/6/2020] Thawal Willy Cai: Merry Christmas 🎄

ม่อนต่อเนตที่สนามบิน Changi ได้ เลยโทร.มาคุยหลายครั้ง แต่ละขั้นตอน และส่งไฟลท์มาให้ดูด้วยว่าเดินทางกี่โมง ส่วนโมชิมือถือมีปัญหาเกี่ยวกับ Chrome browser ทำให้ต่อเนตแบบที่ต้องรีจิสเตอร์ไม่ได้

ม่อนส่ง Flight มาให้

ม่อนส่งรายละเอียดไฟลท์มาให้ สองหนุ่มไปรอที่ A14 ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง ต้องรอกันเป็นสองชั่วโมงเลย ตื่นเต้นกันใหญ่เลย พอถึงเวลาสองหนุ่มก็ขึ้นเครื่อง ป่าป๊าหม่าม๊าเล็งเวลาไว้แล้ว และเดินทางไปรับที่สนามบิน ซึ่งจริงๆ ได้แค่แอบดูเท่านั้น เนื่องจากเจอตัวกันไม่ได้ แต่ต้องสืบว่าไปพักที่ไหน โดยที่มีแม่อาชิบอกข่าวมา เนื่องจากมีเด็กไทยมีพ่อแม่เส้นใหญ่ ดึงเด็กที่เดินทางมาเที่ยวนี้ไปพักที่ใกล้ คือ DIVALUX เป็นโรงแรมรีสอร์ทระดับห้าดาว อยุ่ที่ถนนวันศรีวารีน้อย

โรงแรม DIVALUX

ป่าป๊าหม่าม๊าไปสนามบินสุวรรณภูมิ จอดรถที่ลานจอดชั้น 5 แล้วเดินตรงมาก็ตรงกับประตู 8 เลย พอเข้ามาก็เดินไปยังแถวประตู 10 มีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้อกันเชื้ออยุ่ที่ ประตู 9 และ 10 และมีคนเดินออกมาเรื่อยๆ เขาขานเบอร์ที่ติดอยู่ที่หน้าอก ที่ประตู 9 มีป้ายเขียนว่า ASQ ก็นึกว่าเป็น Singapore airline แต่มีตัว A นำ ก็ไม่รู้ว่าอะไร รออยู่นานยังไม่เห็นสองหนุ่ม ป่าป๊าเห็นเจ้าหน้าที่เดินมาใกล้บันไดเลื่อน เลยวิ่งไปหาและไปถามดู ถึงรู้ว่า ASQ คือ alternatives state quarantine แต่ของเราไม่ใช่ ต้องเป็นประตู 10 และเขาไม่รู้ว่ารถแต่ละคันจะพานักท่องเที่ยวไปกักตัวที่ไหน

หม่าม๊าตามมาดักดูที่สนามบิน

ป่าป๊าเลยเดินขึ้นมารอต่อ สักพักก็เห็นคนเดินออกมายังประตู 10 ซึ่งคนเดินทางจากต่างประเทศก็มาที่นี่เหมือนกัน และมีหลายสายการบิดด้วย น่าจะทยอยมาเรื่อยๆ ตามเวลาของเครื่องบิน อีกสักพักก็เห็นสองหนุ่มเดินออกมาตามแถว ป่าป๊าตะโกนเรียกม่อนกับโม สองคนเห็นก็โบกมือกันใหญ่เลย

ออกมากันแล้ว

ทุกคนดีใจกันใหญ่ เห็นหน้ากันแล้วหลังจากไม่ได้เจอกันนานมาก สองหนุ่มไปสิงค์ตั้งแต่ต้นปี ส่วนป่าป๊ามีไปเยี่ยมวันที่ 1 กพ. สองคนตัวใหญ่ขึ้น ม่อนเปลียนทรงไปเลย โมชิสุงแต่ผอมมาก

ยืนทักกันตรงนี้แป๊ปเดียวเอง แถวก็เดินเพื่อออกประตู 10 ไปขึ้นรถบัส ด้านหน้าม่อนเป็นอาชิ หม่าม๊าก็ตะโกนเรียก มองหน้ากันแต่อาชิจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ส่วนม่อนโมก็ต่างจำอาชิไม่ได้เช่นกัน

ป่าป๊ารีบเดินไปข้างล่างไปยังรถบัส แต่ไม่ทันรถออกไปแล้ว ก็เลยเดินมาอักคันหนึ่งถามว่ารถบัสไปไหน คนขับรถบอกว่าไม่รู้ว่าไปไหน ขับตามรถนำไปเท่านั้น ป่าป๊าเลยถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็ไม่รู้เช่นกัน แต่รู้ว่าน่าจะไปโรงแรม ชลจันทร์ และดีวาลักษ์ ป่าป๊าเช็คดู พบว่าชลจันทร์อยู่พัทยา ส่วนดีวาลักซ์รู้อยู่แล้ว เลยโทร.ไปดีวาลักซ์ เขาตอบว่า มีคนมาพักจากการกักตัวสองรอบวันนี้รอยเย็นมาจากสิงค์โปร์ และห้าทุ่มมาจากเกาหลีใต้ ก็เลยชัวร์ว่าที่นี่แน่ เลยรีบขับรถไปถึงที่เลย

พอมาถึงก็เจอพ่อของอาชิยืนอยู่แล้ว เขามุ่งหน้ามาที่นี่ตั้งแต่แรก และโรงแรมนี้ไม่มีแขก ปิดจากโควิด ตอนแรกไม่ให้เราเข้า ก็เลยบอกยามว่าจะมาดูคนที่มากักตัว เขาเลยถามฟร้อนท์ และปล่อยให้เข้ามา 

ที่นี่มีทหารดูแลอยู่ ไม่รับคนนอกแล้ว หม่าม๊าเอาของมาให้หลายอย่าง เขาเอาออกหมด ได้แต่ของแห้งและมีอย. เท่านั้น ส่วนซิมก็ฝากไปได้ และแยกห้องด้วย คนละห้อง แต่ห้องติดกัน ก็เลยแค่ฝากของไว้ และคุยกันทางไวไฟ ส่วนโมชิคุยไม่ได้ เพราะต่อไวไฟไม่ได้

คืนนี้เด็กๆเหนื่อยกัน โทร.คุยกันไปมาหลายรอบ การโทร.หาโมชิก็โทร.ไปที่โรงแรม และให้ต่อห้องให้ โมชิอยู่ห้อง 3404 ส่วนม่อนอยู่ห้อง 3403 ม่อนบอกว่าง่วงแล้วเลยอาบน้ำนอน โมชิก็เหมือนกัน

Comments are closed.